Package & Bundled Gentec-i
ก่อนอื่นมาดูในส่วนของหีบห่อ และอุปกรณ์การติดตั้งกันครับ สำหรับหีบห่อนั่นก็ยังคงใช้วัสดุแบบเดียวกับเคสตัวอื่นๆก็คือ ใช้กระดาษแข็ง โดยตัวกล่องจะสกรีนรูปและชื่อระบุบไว้ได้อย่างชัดเจนทีเดียว เมื่อเปิดกล่องออกมาก็จะพบกับเคสยืนเด่นเป็นสง่าอยู่ รวมทั้งในเคสก็จะมีกล่องบันเดิลซึ่งข้างในกล่องก็จะมี สกรู-น๊อต สำหรับติดตั้งมาให้ 4 ถุง , มีฟิวเตอร์กรองฝุ่นสำหรับใช้บริเวณท้องเคส รวมทั้งบริเวณด้านล่างของพาวเวอร์ซัพพลาย และ ก็จะมีเคเบิลไทด์สำหรับรัด-จัดสายไฟมาให้อีกจำนวนหนึ่ง

Detail Gentec-i ตามต่อกันในเรื่องของงานการผลิตกันบ้างครับ สำหรับเนื้องานของเจ้า GVIEW Gentec I นั้นเลือกที่จะใช้เหล็กเป็นส่วนประกอบหลักโดยตัวเหล็กนั้นจะมีความหนา 0.8 มิลิเมตร โดยบริเวณที่เป็นเหล็กหลักๆเลยก็จะอยู่บริเวณโครงเคส ตัวเคส รวมทั้งฝาข้างของเคส โดยจะมีส่วนเพิ่มเติมในบริเวณส่วนตกแต่งอื่นๆที่จะเป็นพลาสติกสีดำ และยางสีดำ รวมทั้งก็จะมีตะแกรงรังผึ้งที่ทำจากเหล็กในบางส่วน ซึ่งอย่างที่เห็นกันว่าตัวเคสนั้นค่อนข้างจะมีความดุอยู่ไม่น้อยทีเดียว โดยขนาดและมิติของตัวเคสนั้นจะมีความกว้างอยู่ที่ 200 มิลิเมตร มีความสูงอยู่ที่ 530 มิลิเมตร และมีความลึกอยู่ที่ 550 มิลิเมตร ( W 200 ม.ม. x H 530 ม.ม. x L 550 ม.ม.) และมีน้ำหนักตัวเคสอยู่ที่ 7-8 กิโลกรัมโดยประมาณ และตัวเคสนั้นจะถูกจัดวางในรูปแบบ Mid-Tower หรือเคสในระดับกลางโดยที่ตัวเคสเองก็สามารถรองชับชุดระบายความร้อนด้วยน้ำได้ทั้ง CPU และ VGA ได้อีกด้วย และสำหรับเคส GVIEW ตัวนี้นั้นก็จะสามารถรองรับเมนบอร์ดในรูปแบบมาตราฐานทั้ง uATX / mATX และ ATX และสามารถรองรับการ์ดจอที่มีความยาวมากๆได้เป็นอย่างดี เพราะตัวเคสนั้นมีความลึกค่อนข้างที่จะมาก แต่ในเรื่องของความกว้างนั้นอาจจะแคบไปเล็กน้อยสำหรับชุดระบายความร้อนระดับสูง เพราะฝาข้างของเคสนั้นได้มีพัดลมติดตั้งมาด้วย สำหรับเลย์เอาท์ของตัวเคสนั้นก็ยังคงใช้รูปแบบนิยมที่สองของ ATX Case ก็คือจะย้าย PSU ไปไว้ด้านล่างแทนที่จะอยู่ด้านบนเหมือนแบบนิยมในรูปแบบเก่า โดยระหว่างบริเวณติดตั้งเมนบอร์ดกับบริเวณติดตั้ง PSU นั้นจะมีแผ่นเหล็กกันแยกส่วนพื้นที่ไว้อย่างชัดเจน ทั้งนี้เพราะจะเป็นการบังคับลมร้อนให้พัดออกทางด้านหลังเคส และบังคับลมร้อนหนีบริเวณเมนบอร์ด โดยสำหรับการระบบระบายความร้อนจะใช้พัดลมระบายความร้อน โดยสามารถที่จะติดตั้งได้ทั้งหมด 9 ตัว แบ่งเป็นฝาหน้า 2 ตัว , ด้านหลัง 1 ตัว , ด้านบน 1 ตัว , ด้านใน 1 ตัว , ด้านข้าง 4 ตัวโดยพัดลมทั้งหมดจะเป็นพัดลมขนาด 120 มิลิเมตร แต่ตรงบริเวณฝาข้างนั้นก็สามารถที่จะเปลี่ยนจากพัดลม 120 มิลิเมตร 4 ตัวเป็นพัดลมขนาด 240 มิลิเมตรตัวเดียวก็ได้เช่นกัน
มาดูกันต่อในส่วนของดีเทลปลีกย่อเล็กๆกันบ้างครับ สำหรับในส่วนแรกจะเป็นบริเวณหลังคาด้านบนของเคส ซึ่งก็จะมีการเจาะรูระบายความร้อนสำหรับพัดลมขนาด 120 มิลิเมตรให้ด้วย โดยบนหลังคาเคสด้านนอกนั้นก็จะมีพลาสติกขึ้นรูปตกแต่งไว้ด้วย และอีกส่วนนึงก็คือด้านท้องของเคสซึ่งก็จะมีการติดเจาะรูระบายความร้อนมาให้เช่นกันจุดนึงก็จะเป็นของ PSU และในอีกจุดนึงก็จะเป็นของพัดลมระบายความร้อนขนาด 120 มิลิเมตร โดยบริเวณท้องเคสนั้นก็จะมีขาตั้งเคสสูงราว 2 เซนติเมตรติดมาให้ด้วยเพื่อขยายพื้นที่ให้ได้ปริมาณลมมากขึ้นครับ และในส่วนสุดท้ายก็จะเป็นบริเวณสวิตซ์ และ ช่องเชื่อมต่อหน้าเคสครับ ซึ่งจะติดตั้งอยู่ด้านบนบริเวณด้านหน้าของตัวเคส โดยบริเวณนี้ก็จะมีปุ่มเปิด-ปิด , ปุ่มรีเซ็ต , ปุ่มเปิดปิดพัดลม หน้า , หลัง , บน และบริเวณด้านข้าง รวมทั้งช่องเชื่อมต่อ USB 2.0 จำนวน 3 ช่อง , ช่อง ไมค์-ลำโพงอย่างละ 1 ช่อง และสุดท้ายคือช่อ E-Sata อีก 1 ช่อง Drive Holder & Card Slot
สำหรับในการติดตั้ง ออฟติคอลไดร์ฟและดิสไดร์ฟนั้น เจ้าเคส GVIEW Gentec I สามารถที่จะติดตั้ง ออฟติคอลไดร์ฟขนาด 5.25 นิ้ว ได้ทั้งหมดจำนวน 3 โดยสำหรับในการติดตั้งออฟติคอลไดร์ฟนั้นจะใช้ในรูปแบบ ปกติคือใช้สกรูขัน แต่ตัวเคสนั้นจะมีแหวนซิลิโคนซับแรงกระแทก รองมาให้ด้วย ส่วนดิสไดร์ฟขนาด 3.5 นิ้วนั้นสามารถที่จะติดตั้งได้ทั้งหมดจำนวน 7 ตัวด้วยกัน แต่น่าสังเกตว่าไม่สามารถที่จะรองรับการติดตั้ง Floopy Disk หรือ Front Panel ขนาด 3.5 นิ้วได้ โดยในการติดตั้งนั้นตัวจะเป็นในรูปแบบของถาดแบบ Slide Tray โดยการติดตั้งบนถาดก็จะเป็นในรูปแบบเดียวกับออฟติคอลไดร์ฟก็คือขันสกรู โดยที่จะมีแผ่นซิลิโคนซับแรงกระแทกมาให้เช่นกัน ต่อมาในส่วนท้ายสุดก็จะเป็นในส่วนของ Expantion Slot หรือช่องเสียบขยายก็สามารถรองรับการ์ดต่างๆเช่นการ์ดจอ การ์ดเสียง หรือการ์ดแลนเป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนั้นก็สามารถที่จะรองรับได้ทั้งหมด 7 ช่องตามมาตรฐานของเคส Mid-Tower โดยทั่วไปครับ และที่จะลืมกล่าวถึงไปเลยไม่ได้นั่นก็คือบริเวณติดตั้งหน่วยจ่ายไฟหรือ PSU ที่อยู่ด้านล่างของตัวเคสซึ่งก็จะมีฟองน้ำรองกันสั่นและกันกระแทกได้ และจุดที่น่าสนใจคือบริเวณการติดตั้ง PSU แยกออกจากบริเวณการติดตั้ง Mainboard อย่างชัดเจนโดยจะมีแผ่นเหล็กกันลมร้อนอย่างที่ผมได้อธิบายไว้ในหน้าแรก
Fan & Filter สำหรับฝาหน้าของตัวเคสนั้นเลือกที่จะใช้วัสดุเป็นพลาสติก , ยาง และ ตะแกรงหล็กสีดำเป็นหลักโดยยางที่ทำเป็นฝาหน้านั้นค่อนข้างที่จะแปลกใหม่ทีเดียวเพราะไม่ค่อยเห็นในเคสรุ่นอื่นๆมากนัก โดยรูปร่างหน้าตาของฝาหน้านั้นดูออกจะเรียบง่าย ไม่มีอะไรหวือหวามากมายนัก และสำหรับบริเวณด้านหลังของฝาหน้ารวมทั้งช่อง 5.25 นิ้วทั้งสามช่องก็จะมีฟิวเตอร์กรองฝุ่นที่สามารถถอดออกมาล้างได้ ติดตั้งมาให้ด้วย โดยฟิวเตอร์ในส่วนนี้จะเป็นตัวกรองฝุ่นให้กับพัดลมขนาด 120 มิลิเมตรที่ติดตั้งอยู่หลังฝาหน้าจำนวนสองตัวด้วยกัน และในส่วนของพัดลมทั้งหมดที่ทางผู้ผลิตจัดมาให้กับเคส GVIEW Gentech I มีจำนวนทั้งสิ้น 9 ตัวด้วยกันโดยจะเป็นพัดลม 120 มิลิเมตรหรือ 12 เซนติเมตรทั้งหมดโดยจะเป็นพัดลมทึบหนึ่งตัว และเป็นพัดลม LED ไฟสีแดงจำนวน 8 ตัวด้วยกัน โดยพัดลม LED จะติดตั้งที่ฝาหน้า 2 ตัว , ด้านบน 1 ตัว , ด้านใน 1 ตัว , ด้านข้าง 4 ตัว และพัดลมแบบทึบจะติดตั้งอยู่บริเวณด้านหลัง 1 ตัว Conclusion
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับเคส GVIEW Gentech I ถูกตาโดนใจทุกๆท่านกันบ้างหรือเปล่า โดยส่วนตัวเจ้าเคสตัวนี้ผมว่ามันก็ทำได้ดีทีเดียว สำหรับเคสแบรนด์นี้ที่มักจะจับแต่ตลาดในระดับล่างและระดับกลาง แต่เมื่อลองแบรนด์นี้ลองมาจับตลาดในระดับกลาง-สูงก็ทำออกมาได้ค่อนข้างดีทีเดียวที่เห็นกันได้อย่างเด่นๆเลยก็คือในเรื่องของเนื้องานที่ค่อนข้างจะเนี๊ยบเรียบร้อยเอาการทีเดียว รวมไปถึงเลย์เอ้าท์ก็ได้รับการออกแบบได้อย่างดี เช่นบริเวณที่ติดตั้ง PSU ที่จะแยกส่วนกับการติดตั้ง Mainboard โดยจะมีแผ่นหลังกันน่าจะช่วยให้ Hardware ต่างๆที่ติดตั้งเย็นลงได้บ้างไม่มากก็น้อย รวมทั้งในเรื่องของฟีเจอร์ต่างๆที่ค่อนข้างจะอัดแน่นทีเดียวยกตัวอย่างเช่น สวิตซ์เปิด-ปิดพัดลมที่สามารถสั่งเปิดปิดพัดลมเคส ได้ดั่งใจเพียงแค่กดสวิตซ์ปุ่มเดียว และในเรื่องของพัดลมที่อัดแน่และจัดเต็มมาให้มากถึง 9 ตัวเลยทีเดียว รวมทั้งในเรื่องของฟิวเตอร์ต่างๆที่ก็มีมาให้ในแบบครบๆแทยจะทุกจุดที่ดูดลมเข้าเคส และเจ้าฟิวเตอร์เองก็ยังสามารถที่จะถอดล้างออกได้อย่างสะดวก และที่จะลืมพูดถึงไปเลยไม่ได้ก็คือ Card Reader ที่ติดตั้งฝังมาให้บนเคสกันเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ดีสิ่งที่น่ามองก็คือขนาดความกว้างของตัวเคสที่แลอาจจะแคบไปหน่อยสำหรับชุดระบายความร้อนใหญ่ๆ รวมทั้งในเรื่องของหน้าเคสที่จะถูกตัดช่อง Front Panel ขนาด 3.5 นิ้วออกไป อย่างไรก็ดีราคาค่าตัวของเคสตัวนี้ก็จะอยู่ที่ราว 3800+-100 บาทครับ ซึ่งเจ้านี่มันจะคุ้มค่ามากน้อยอย่างไรผมก็ขอมอบหน้าที่นี้ให้ผู้อ่านทุกๆท่านเป็นคนตัดสินใจแล้วกันนะครับ สำหรับในวันนี้ผมคงต้องขอตัวไปเขียนบทความก่อน ในวันหน้ากลับมาพบกันใหม่ ขอให้โชคดีทุกคนครับ........eXzato
ที่มา http://www.overclockzone.com/